missBBgirl

มีใครกำลังประสบปัญหา”รองเท้ากัด” กันอยู่บ้างฝันร้ายของหลายๆคน ไม่ว่าจะชอบรองเท้าคู่นี้แค่ไหนแต่ถ้าโดนรองเท้ากัดขึ้นมาก็คงไม่อยากใส่อีกต่อไป แต่เรามีวิธีง่ายๆ 5 วิธีที่จะช่วยให้สาวๆไม่โดนรองเท้าคู่สวยกัดอีกต่อไป วิธีแก้ปัญหารองเท้ากัด 1. ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือ วาสลีน ปิโตรเลียมเจลลี่จะช่วยให้รองเท้ามีความอ่อนนุ่มลง สาวๆเพียงนำปิโตรเลียมเจลลี่หรือวาสลีนทาลงบนรองเท้าบริเวณที่ถูกกัด นวดๆให้เนื้อของปิโตรเลียมเจลซึมลงในรองเท้า ทิ้งไว้สัก 1-2 ชม. บริเวณที่ถูกกัดก็จะมีความอ่อนนุ่มลงและไม่กัดอีกต่อไป 2. แป้งฝุ่น วิธีนี้หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างนะคะ เป็นวิธีธรรมดาที่หลายๆคนเลือกใช้ เพียงนำแป้งฝุ่นโรยที่บริเวณที่ถูกกัดจะช่วยให้รองเท้ามีความลื่นและไม่ถูกกัดนั่นเองค่า 3. เทียนไข หลายๆคนอาจจะงงกับวิธีนี้นะคะว่าเทียนไขจะช่วยได้ยังไงนะ ? การใช้เทียนไขจะช่วยเคลือบรองเท้าบริเวณที่กัดเท้าเราทำให้มีความนุ่มและลื่นๆ เพียงนำเทียนไขไปถูๆบริเวณที่ถูกกัดเท่านี้ก็จะช่วยให้รองเท้าเกิดความลื่นและไม่กัดเท้า 4.…

แน่นอนว่าสาวๆทุกคนจะต้องใส่เสื้อชั้นในกันอยู่แล้วนะคะ แต่ทราบกันหรือไม่คะว่า ชุดชั้นในของเราเสี่ยงสามารถส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของสาวๆได้ในระยะยาว ผลกระทบของการใส่ชุดชั้นในแบบผิดๆ 1. ระบบไหลเวียนเลือดการใส่ชุดชั้นในที่มีขนาดไม่พอดีกับหน้าอก มีขนาดเล็กและรัดหน้าอกเกินไป เป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองทำงานไม่ได้ปกติ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ในอนาคต 2. สาเหตุของการเกิดสิวการใส่เสื้อชั้นในแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องอยู่ติดกับบริเวณผิว ทำให้เกิดการเสียดสีและทำให้เกิดความอับชื้นจนอาจทำให้ผิวของสาวๆเกิดอาการแพ้เป็นผดผื่นหรือสิว รวมไปถึงความอับชื้นก็สามารถทำให้เกิดการสะสมของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของสิวได้ค่ะ 3. กลิ่นตัวชุดชั้นในเป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา สาวๆควรรักษาความสะอาดของชุดชั้นใน ไม่ใส่เสื้อชั้นในซ้ำๆ ไม่ใส่เสื้อชั้นในที่มีความอับชื้นหรือยังไม่แห้งสนิท เพราะจะทำให้เสื้อชั้นในกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดเป็นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นั่นเองค่ะ 4. Office Syndromeการใส่เสื้อชั้นในที่มีขนาดเล็กไม่พอดีกับตัวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองแล้ว ยังส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดความเมื่อยล้า อึดอัดตัว เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก ในบางกรณีสามารถส่งผลให้เกิดไมเกรนไปจนถึงเกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง จากข้อเสียข้างต้นที่กล่าวมานะคะ…

หัวนมเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีความเซนซิทีฟที่สุดของร่างกายเลยก็ว่าได้ ทำให้บริเวณหัวนมนั้นสามารถเกิดการระคายเคืองได้ง่ายและสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่เราจะมีวิธีการรักษาอย่างไรได้บ้างเมื่อหัวนมลอก ? สาเหตุที่ทำให้หัวนมลอก 1. ผิวแห้งเป็นปกตินะคะที่ผิวหนังของเราอาจเกิดการแห้งลอกขึ้นได้กับทุกที่บนร่างกาย เนื่องจากผิวของเราขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำนั่นเองค่ะ บริเวณหัวนมก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน 2. สภาพอากาศอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้งลอก อากาศเย็นและแห้งเป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น จนทำให้ผิวเกิดการแห้งและลอกเป็นขุยได้ 3. ผิวหนังอักเสบอาจเกิดขึ้นได้จากอาการแพ้ การเสียดสี หรือโรคผิวหนังจากเชื้อรา ทำให้ผิวหนังไวต่อการระคายเคือง จนทำให้ผิวนั้นเกิดการลอกเป็นขุยจากการระคายเคือง 4. แพ้สารเคมีอาการแพ้สารเคมีอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผงซักฟอก สบู่ โลชั่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือสารเคมีอื่นๆ อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ 5. ฮอร์โมนในช่วงที่สาวๆมีประจำเดือนจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน…